ทิสโก้โชว์ฟอร์มแกร่ง! กำไรไตรมาส 3/68 พุ่ง 1,730 ล้านบาท โต 5.3% – สินเชื่อ EV หนุนรายได้-ตั้งสำรองสูงรับเศรษฐกิจเปราะบาง
ทิสโก้โชว์ฟอร์มแกร่ง! กำไรไตรมาส 3/68 พุ่ง 1,730 ล้านบาท โต 5.3% – สินเชื่อ EV หนุนรายได้-ตั้งสำรองสูงรับเศรษฐกิจเปราะบาง
กลุ่มทิสโก้ (TISCO Financial Group) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ด้วยกำไรสุทธิ 1,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว สะท้อนความแข็งแกร่งของการบริหารงานเชิงคุณภาพในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งธนาคาร ตลาดทุน และการจัดการกองทุน
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า การเติบโตครั้งนี้เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิหลังต้นทุนเงินฝากลดลงตามภาวะดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่อนคลาย ขณะเดียวกันรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต 25.9% จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) และกำไรจากการลงทุนที่ฟื้นตัว ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ 16.6%
“แม้เรายังคงตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) ในระดับสูง เพื่อเตรียมรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่เปราะบาง แต่ผลประกอบการที่เติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจถือเป็นหลักฐานว่าทิสโก้ยังคงเดินหน้าบนเส้นทางเติบโตอย่างมีคุณภาพ” นายศักดิ์ชัยกล่าว
สินเชื่อ EV ดันรายได้พุ่ง – NPL ลดลงเหลือ 2.3%
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของทิสโก้ได้รับแรงหนุนจากธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ที่เติบโตตามปริมาณสินเชื่อใหม่
สินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 230,409 ล้านบาท ลดลงเพียง 0.8% จากสิ้นปีก่อน สาเหตุหลักจากการชำระหนี้ของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยเริ่มกลับมาขยายตัวในทิศทางบวก โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียน
คุณภาพหนี้ยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเหลือ 2.3% ของสินเชื่อรวม และมีอัตราส่วนเงินสำรองต่อหนี้เสีย (Coverage Ratio) สูงถึง 171% สะท้อนการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม
มุมมองเศรษฐกิจ: ทิสโก้คาด GDP ปี 68 โตต่ำกว่า 2%
ซีอีโอทิสโก้ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยยังอ่อนแรงจากปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบการส่งออก การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ยังไม่เต็มศักยภาพ และภาระหนี้ครัวเรือนที่กดดันการบริโภค
กลุ่มทิสโก้คาดว่า GDP ไทยปี 2568 จะเติบโตเพียง 1.9–2.1% และอาจลดลงเหลือ 1.6–1.8% ในปี 2569 หากปัจจัยเสี่ยงภายนอกยังคงยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ทิสโก้ยังคงยึดแนวทางการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเดินหน้าพัฒนาบริการที่ปรึกษาทางการเงินครบวงจร ภายใต้บทบาท “Your Trusted Financial Advisor”
ฐานะการเงินมั่นคง – BIS Ratio สูง 20.9%
ในส่วนของฐานะเงินกองทุน กลุ่มทิสโก้มี BIS Ratio อยู่ที่ 20.9% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างมาก สะท้อนถึงศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งและความพร้อมในการขยายธุรกิจในระยะยาว
วิเคราะห์: ทิสโก้ “เติบโตอย่างมีวินัย” ในยุคเศรษฐกิจเปราะบาง
นักวิเคราะห์ตลาดทุนมองว่า กลุ่มทิสโก้คือหนึ่งในธนาคารขนาดกลางที่บริหารพอร์ตสินเชื่ออย่างมีวินัย และใช้กลยุทธ์ “Selective Growth” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน การตั้งสำรองเชิงรุกและการขยายพอร์ตสินเชื่อ EV ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผลประกอบการยังคงแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจชะลอตัว
